2/24/2008

โปรแกรมเทรด Streamster

มือใหม่อ่านเรื่องนี้อาจจะมึนๆหน่อยนะครับ แต่ขอให้อ่านจนจบ ทำความเข้าใจ หลังจากนี้ไปจะง่ายแล้ว

ส่วนต่างๆของโปรแกรม

หลังจาก Login เข้ามาก็จะพบหน้าตาแบบนี้


ส่วนที่1 Forex rate เป็นส่วนที่แสดงราคาของคู่เงินต่างๆที่มีให้เราเทรดกัน

ตัวอย่าง EUR/USD หมายถึงเงินยูโรเทียบกับเงินดอล ราคา 1.2814 หมายความว่า 1 EUR = 1.2814 USD

Last- ราคาในตลาดตอนนี้
Bid - ราคาขายของค่าเงินนั้น ๆ ถ้าเราสนใจจะขายเราก็จะขายได้ในราคานั้น
Offer - ราคาซื้อ ของค่าเงินนั้นๆ ถ้าเราสนใจจะซื้อ เราก็จะซื้อได้ในราคานั้น
Change – ผลต่างจากราคาตอนเปิดตลาด ( ตลาดเปิดตี 5 )
High - ราคาสูงสุดของวันนี้
Low - ราคาต่ำสุดของวันนี้
Open - ราคาเปิดตลาดของวันนี้

สีเขียว หมายถึง เพิ่มขึ้น (จากวินาทีที่แล้ว)
สีแดง หมายถึง ลดลง
สีดำ หมายถึง เท่าเดิม

การเพิ่ม-ลบคู่เงิน ทำได้โดยการกดที่ปุ่ม Subscriptions ส่วนข้างบนจะแสดงรายการค่าเงินที่เรา add ไว้แล้ว ถ้าจะเอาตัวไหนออก ก็กดที่ค่าเงินนั้น แล้วกดที่ Remove ส่วนด้านล่าง แสดงค่าเงิน ที่เราสามารถเพิ่มเข้ามาได้ ให้กดที่ search แล้วระบบจะแสดงค่าเงินทั้งหมดออกมา จะเพิ่มตัวไหนก็กดที่ค่าเงินนั้นๆ แล้วกด Subscribe



ส่วนที่ 2 Chart เป็นส่วนที่แสดงกราฟของคู่เงินต่างๆ ในส่วนนี้จะใช้ในการวิเคราะห์การซื้อ-ขาย จะขอกล่าวถึงทีหลังในหัวข้อ Technical Analysis ( การวิเคราะห์ทางเทคนิค )

ส่วนที่ 3 Fortfolio เป็นส่วนที่แสดงจำนวนที่มีอยู่ของเรา ซึ่งจะมีอยู่ 2 Desk คือ
Virtual Forex เงินปลอมจำนวน $10000 เอาไว้หัดเทรดก่อนจะลงเงินจริง
Live Forex เงินจริงโบนัสจากการสมัคร $5 ( หากมี $2.5 ต้องทำการโอนมาจาก Live Funds โดยไปที่ Account Center --> Transfer Funds )

* เงินจริง $5 หากเล่นเสียจนหมด ห้ามสมัครใหม่เพื่อเอาโบนัสซ้ำเด็ดขาด คุณจะถูกแบนทันที ดังนั้นควรหัดเงินปลอมให้เก่งก่อนจะลงเงินจริง หรือจะ Deposit เงินตัวเองเข้ามาก็ได้

ส่วนที่ 4 Position แสดงรายการ Order ซื้อ-ขาย ของเรา


การเปิด Order ซื้อ - ขาย

การเทรดฟอเรก สามารถทำกำไรได้ 2แบบ คือ

Buy หรือ Long คืออการซื้อถูก แล้วขายแพง หรือเล่นแบบขาขึ้นนั่นเอง
Sell หรือ Short คือการขายแพงไปก่อน แล้วค่อยซื้อกลับมาเมื่อราคาต่ำลง



จากรูปตัวอย่าง หากเราจะซื้อEUR/USD จะได้ราคา 1.4828 และถ้าขายจะได้ราคา 1.4826 ซึ่งจะต่างกันอยู่ -2 pips( ส่วนต่างของราคา จะเรียกว่า Pips ไม่เรียกว่า point หรือ จุด เพราะมันเป็นทศนิยมหลายตำแหน่ง แต่คนไทยนิยมเรียกว่าจุดนั่นแหละเพราะความเคยชิน)

ส่วนต่างของราคาซื้อ-ขายตรงนี้เรียกว่า Spread ซึ่งเป็นค่าน้ำชาหรือค่าต๋งที่เราต้องเสียให้กับโบรกเกอร์

จะเห็นว่าคู่ที่มีค่า Spread ต่ำสุดก็ EUR/USD เป็นตัวที่เหมาะที่สุดแล้วกับมือใหม่เพราะเสียค่าต๋งน้อย ราคาไม่ค่อยผันผวนนัก วิเคราะห์ง่ายที่สุดว่ามันจะขึ้นหรือลง

หากจะซื้อ(เล่นแบบLong)คลิกที่ช่อง Offer และขาย(Short)คลิกที่ Bid



Instrument - สกุลเงิน ( เลือกไว้ให้แล้ว )
buy/sell - ชนิดของการทำรายการ ว่า ซื้อ หรือ ขาย ( เลือกไว้ให้แล้ว )
price - ราคา(ปัจจุบัน)
price type - มีให้เลือกว่าจะซื้อ-ขายหรือ หรือจะตั้งซื้อขายล่วงหน้า( จะกล่าวถึงทีหลัง ) ไม่ต้องเลือก
quantity - จำนวนเงินหน่วยเป็นเซนต์ ไม่ควรเทรดเกิน 20% ของเงินที่มี( $1 = 100 เซนต์ )
quantity type - ชนิดของจำนวน
exist stop loss – ตั้งค่าให้ปิด Order
อัตโนมัตที่ราคาไหน ใช้ในกรณีขาดทุนหรือกำไรลดลง
exit target – ตั้งค่าให้ปิด Order อัตโนมัติเมื่อได้กำไรระดับราคาที่เรากำหนด
desk - ชนิดของตังที่ลง (จริงหรือปลอม)


เช่น Long EUR/USD ที่ราคา 1.4820 จะเอากำไร +50 pips ก็ตั้ง exit target ไว้ 1.4870 และถ้าไม่ได้กำไร จะยอมขาดทุนที่ -50 pips ก็ใส่ exist stop loss ที่ 1.4770

การปิดการซื้อขาย Close Order

เมื่อเราทำกำไรถึงจุดๆนึงแล้ว คิดว่ามันไม่ไปต่อแล้ว จะปิดการซื้อ-ขายเพื่อเอากำไร หรือฝรั่งเรียกว่า Take Profit ให้ทำใน ส่วนที่ 4 Position คลิกในบรรทัดของออเดอร์ที่ต้องการปิด แล้วเลือก Close คลิก Yes ยืนยันอีกที ตรงช่อง Status จะเปลี่ยนจาก Open เป็น Closed กำไรหรือขาดทุนเท่าไรดูที่ช่อง Profits

เวลาเปิด-ปิดตลาด
เราสามารถเล่น Forex ได้ เช้าวันจันทร์ตี 4 ถึง คืนวันศุกร์ ตี 4 ( บวกหนึ่งชั่วโมงในหน้าหนาวยุโรปตามเวลา DST)
เล่นได้ 24 ช.ม. ต่อวัน อาทิตย์ละ 5 วัน มีตลาด forex ใหญ่ ของโลกประมาณ 4-5 แห่ง
คือ usd japan เป้นต้น แต่ละตลาดก็ เปิดและ ปิด คาบเกี่ยวกัน ตลาดยุโรปเปิด ตลาดเอเชียก็ปิด ทำให้ เราเล่น Forex ได้ 24 ช.ม.

ช่วงเวลาที่ควรเล่น คือช่วงเวลาเปิดตลาดยุโรป บ่าย2 ถึง 5โมงเย็น และอเมริกา ทุ่มครึ่ง ถึง เที่ยงคืน( บวกหนึ่งชั่วโมงในหน้าหนาวยุโรปตามเวลา DST)

Margin Requirement 1%

มาจิ้น คือ จำนวนเงินในบัญชีของเราที่โปรแกรมจะใช้มาคำนวณในการเทรด ดูใน ส่วนที่ 3 Fortfolio

Avilable Margin : คือจำนวนเงินที่เหลืออยู่ ที่สามารถเอาไปใช้เทรดได้
Used Margin : คือ จำนวนเงินที่ใช้ไป

ตรงนี้จะต้องระวังนิดนึงไม่ให้มาจิ้นหมด เมื่อเราขาดทุนติดลบมาจิ้นจะลดลงไปเรื่อยๆ ถ้าหมดมันจะสั่งปิด Order ของเราที่เปิดอยู่ เพื่อป้องกันการขาดทุนของโบรกเกอร์ ตรงนี้จะเกี่ยวข้องกับ Leverage แต่จะไม่ขออธิบายให้ปวดหัวเล่น

ตัวอย่างการคำนวณมาจิ้น

มีเงิน $5 = 500 cent ก็เท่ากับ มาจิ้น $5 ด้วย เมื่อซื้อ EUR/USD(อียู) มา 1 Order ( คนไทยเรียกว่า 1โพ ย่อมาจาก Position ) จำนวน 100 cent

Avilable Margin = 500 - 100 เหลือ 400 หรือ $4.00
เมื่ออียูที่ซื้อมา +10 จุดละ 1% 10จุดของ100 ก็ +10 cent
Avilable Margin = 400 + 10 = 410
แต่ถ้าอียูที่ซื้อมา -100 จุดละ 1% 100จุดของ100 ก็ -100 cent หรือ -1.00 $
Avilable Margin = 400 + 100 = 300

ถ้าอียูที่ซื้อมา -400 มาจิ้นก็จะหมด อียูก็จะโดนปิดอัตโนมัติ ตังก็จะหายไป 400 cent ได้ Used margin คืนกลับมา 100 cent เอาไว้เทรดต่อได้อีก

แต่ถ้าไม่มีระบบมาจิ้น เราก็จะหมดตัวที่ -500 ไม่เหลือตังมาเทรดต่อได้อีกเลย พอจะเห็นภาพไหมครับระบบมาจิ้นเขาทำมาไม่ให้เราหมดตัวนะนี่ ที่จริงแล้วมันจะปิดตั้งแต่มาจิ้นเหลือ 1% เทียบกับ Used Margin แต่ตัวอย่างผมคำนวณที่ 0% เพราะขี้เกียจจิ้มเครื่องคิดเลขนะ 1% กับ 0% มันไม่ต่างกันหรอก


Chat Groups

ในโปรแกรม Streamster นั้นมีห้องแชทสำหรับชาวไทยโดยเฉพาะอยู่ด้วย ในส่วนที่ 2 ให้คลิกที่ Discussion --> Group เลือก Thailand แล้วคลิกปุ่ม OK




สำหรับการวิเคราะห์กราฟจะขอกล่าวถึงทีหลัง โดยจะใช้โปรแกรม Meta Trader 4 ช่วย

การวิเคราะห์กราฟขั้นพื้นฐานสำหรับโปแกรม Streamster อ่านได้ที่ลิ้งข้างล่าง

http://www.rubsub.com/forums/index.php?topic=1844.0

No comments: