2/26/2008

รวมตำรา Forex E-Book ภาษาไทย

Forex E-Book
Update 26-02-2008


พื้นฐานที่มือใหม่ทุกคนต้องอ่านก่อนเล่น
1. Trend หรือแนวโน้มของตลาด
2. Chart Type ชนิดของกราฟและความหมาย ( ควรจะรู้จักกราฟแท่งเทียนก่อนเล่น )
3. แนวรับ - แนวต้าน โดยน้อง survivor1989


ความรู้เพิ่มเติมอ่านไปพลางเล่นไปพลาง
4. Chart Pattern รูปแบบต่างๆของกราฟที่มักพบบ่อย และน่าสนใจ
5. Candlestick Pattern รูปแบต่างๆของกราฟชนิดแท่งเทียน
6. สภาวะของตลาด ( Overbought , Oversold, Convergence และ Divergence )


เทคนิคน่าอ่านเพื่อก้าวสู่โปร
7. พื้นฐานการใช้ Fibonacci & เทคนิค 1-2-3 Trading โดยท่านปรมาจารย์ The_Greenday
8. ทฤษฏี Elliott Wave


เรื่องไหนไม่มีลิ้ง อ่านอันนี้
9. รวมทุกเรื่องในเล่มเดียว ตำราวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค โดยท่าน อ.สุรชัย ไชยรังสินันท์


อ่านทำความเข้าใจให้หมดทุกเรื่อง แล้วเงินจะไหลมาเทมาเองครับ อย่ารีบร้อนเล่นโดยไม่ศึกษาอะไรเลย

ADX Trading

ก่อนจะใช้ระบบเทรดนี้ ต้องมีพื้นฐานเรื่อง Trend หรือแนวโน้มก่อนนะครับ
อ่านได้ที่ http://noviceforex.blogspot.com/2008/02/trend.html

วิธีใช้โปรแกรม MT4 และการติดตั้งอินดิเคเตอร์
อ่านได้ที่ http://noviceforex.blogspot.com/2008/02/mt4.html


ระบบนี้ผมประกอบขึ้นมาเองและใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยจะดูเทรนที่ Timeframe 1H ก่อน เมื่อเห็นเทรนแล้วก็มาหาจุดเจ้าออกที่ 5M และ 15M

ระบบนี้ประกอบด้วย
- เส้น EMA 2เส้น ใช้ดูเทรนและเบรกเอาท์
- ADX ใช้บอกสัญญาณเข้า (และออกในบางครั้ง)
- RSI ใช้แบ่งเขตซื้อ-ขาย โดยถ้า RSI > 50 เป็นเขตBUY และ RSI




รูปหน้าตาระบบเทรด

วิธีใช้
1. ใช้ Timeframe 1H ดูเทรนใหญ่ก่อน แล้วคิดไว้ว่าวันนี้ควรจะเล่นลองหรือชอต ถ้าดูแล้วไม่เป็นเทรนก็หาคู่อื่นเล่นแทน ไม่จำเป็นต้องนั่งจ้องตัวเดียวทั้งวันครับ




2. หาจุดเข้า ใช้ TF 5M และ 15M ควรรอให้มันสัญญาณเข้าทั้งคู่ โดยควรจะเข้าเทรดในช่วงเวลา 14.30-16.30 และ 22.00-01.30 เท่านั้นครับ โดยเฉพาะช่วงเที่ยงห้ามเทรดโดยเด็ดขาด



รูปการหาจุดเข้า-ออก

คำแนะนำในการเทรดแต่ละวัน
- ดูเทรนใหญ่ก่อนเทรด และควรเทรดตามเทรน อย่าสวน
- ช่วงเวลา 10.30-13.00 เป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการเทรด เพราะช่วงเวลานี้ปกติแล้วมันจะนิ่งๆ หากเข้าเทรดไปอาจจะโดนกราฟหลอกได้
- เช็กตารางประกาศข่าวที่ www.forexfactory.com ก่อนเทรด และไม่ควรเทรดคู่เงินที่มีการประกาศข่าว หากไม่รู้ว่าข่าวจะส่งผลยังไงกับค่าเงิน( การอ่านข่าวขั้นพื้นฐาน จะขอกล่าวถึงทีหลัง )
- มือใหม่ไม่ควรเล่น GBP/JPY เพราะมันวิ่งแรงมาก เข้าผิดแปบเดียวก็ -50 ควรหัดเล่น EUR/USD USD/UCF และควรลงเงินปลอมเพื่อดูสภาพตลาดไปก่อนซัก 2 อาทิตย์เป็นอย่างน้อย (ระบบเทรดดีแค่ไหนก็ไม่ช่วยอะไร หากท่านไม่รู้จักสภาพตลาด ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเข้าเทรด เมื่อไหร่ควรดูเฉยๆ)


ดาวโหลดระบบเทรด คลิกที่นี่

Trend หรือแนวโน้มของตลาด

เทรนหรือแนวโน้มของตลาด พื้นฐานแรกที่มือใหม่ทุกคนต้องรู้ หากไม่รู้ก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ถูกต้องว่าควรจะเทรดแบบไหน จะลองหรือชอต จะสั้นหรือยาว

ชนิดของเทรนมี 3 อย่าง
1. Up Trend เทรนขึ้น หรือ Bull Market ตลาดกระทิง ทำไมเขาตั้งชื่อมาประหลาดแบบนี้ เพราะโดยพฤติกรรมแล้ว กระทิงมันขวิดตูดโด่งลอยขึ้นฟ้านั่นเอง
2. Down Trend เทรนลง หรือ Bear Market ตลาดหมี และเช่นเดียวกัน หมีมันตบหัวทิ่ม
3. Side Way นิ่ง แกว่ง ขึ้นๆลงๆ ไม่ขึ้นไม่ลง สภาพตลาดไร้ทิศทาง เทรดยากและเสี่ยงที่สุด

" เทรนขึ้น จะขึ้นจนกว่าจะลง
เทรนลง จะลงจนกว่าจะขึ้น"

เคยได้ยินประโยคข้างบนนี้มั้ยคับ ใครคิดก้ไม่ทราบแต่ฟังดูเหมือนจะกวน
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะ ว่าเทรนมันจะหมดตรงไหน

วิธีแบบโบราณแต่ใช้ได้ดีเขาจะใช้การขีดเส้นเทรน แล้วดูเอาว่ามันหลุดเทรนแล้วยัง
ตามธรรมชาติของเทรน เมื่อมันหมดเทรน จะเกิด Sideway ก่อน(เสมอ) แล้วเมื่อมันเบรคเอาท์ได้ ก็จะเป็นเทรนอีกครั้ง



การขีดเส้นเทรนสมัยนี้คงจะไม่ค่อยมีใครทำกันแล้ว เพราะมันไม่ค่อยสะดวกและดูมั่วๆ อินดิเคเตอร์บางตัวก็บอกเทรนได้( แต่จะเชื่อได้แค่ไหนอีกเรื่องนึง )

ตัวอย่างการใช้เส้น MA ดูเทรน ที่ Timeframe 1H ห้ามดูต่ำกว่านี้เด็ดขาด


ในรูปผมใช้
Moving Average 2เส้น
ชนิด Exponential ,Period 50 สีเขียว เรียกว่า EMA 50
ชนิด Exponential ,Period 100 สีฟ้า เรียกว่า EMA 100

สีเขียวใช้เป็นเส้นเทรน สีฟ้าเป็นเบรกเอาท์

ถ้าเป็นเทรนลง เส้นสีเขียวจะอยู่ข้างล่างสีฟ้า เส้นราคาอยู่ล่างสีเขียวเสมอ เทรนขึ้นก็กลับกัน

เมื่อเป็นเทรนลง ก็เล่นชอตอย่างเดียว ถึงจะเข้าผิดจุด ก็ดองไว้ได้ วันนี้ไม่ลงพรุ่งนี้มันก็ลง
แต่ถ้าเข้าผิดจุด แล้วดองไว้จนเปลี่ยนเทรนก็ไม่ยอมปิด โปรดดูรูปนี้ก่อน


คลิกที่รูปเพื่อดูภาพใหญ่

กราฟ GBP/USD ปี 2006-2007 ขึ้นมาจาก 1.7xxx - 2.1xxx ราวๆ 2000 pips มาจิ้นคงไม่พอให้ดองแน่นอนครับ

2/25/2008

MT4 โปรแกรมช่วยวิเคราะห์กราฟ

Meta trader 4 เป็นโปรแกรมเทรดและวิเคราะห์กราฟที่ได้รับความนิยมสูงสุด โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ทั่วโลกจะใช้โปรแกรมนี้ แต่บางโบรกเกอร์ก็จะมีโปรแกรมเทรดเป็นของตัวเอง เช่น Marketiva ใช้โปรแกรม Streamster แต่ก็ไม่มีโบรกเกอร์ไหนทำมาดีเท่า MT4 เลย

ดาวโหลดได้ที่นี่ http://www.northfinance.com/mt4setup.exe

หลังจากติดตั้งโปรแกรม ให้ทำการ Open Account โดยกรอกข้อมูลทั้งหมด ดังภาพ



* กรอกข้อมูลมั่วๆ ไปเลยก็ได้ครับ! ไม่มีผลอะไรกับเราทั้งสิ้น เพราะเป็น DEMO มีอายุเพียง 30 วัน เท่านั้น *

* เมื่อหมดอายุให้เราเปิด Account ใหม่ โดยการเปลี่ยน E-mail มั่วนิ่มอีกเช่นเดิม *

คุณสามารถใช้โปรแกรมนี้ซ้อมเทรดกับโบรกเกอร์ Northfinance ได้


มาทำความรู้จักเมนูพื้นฐานเพื่อใช้งาน MetaTrader 4 กันครับ ดังภาพ




แถบสีเหลือง (นับจากซ้ายไปขวา)

- Market Watch คือ เมนูช่องแถบสีแดงทั้งหมด เป็นตารางของค่าเงินแต่ละคู่

* สามารถคลิ๊กขวาที่ค่าเงินที่เราต้องการทราบ จะปรากฎเมนูขึ้นมา ให้เราเลือกที่ Chart Window กราฟของค่าเงินนั้นๆ ก็จะปรากฎทางด้านขวา เราสามารถกดปุ่ม Delete เพื่อซ่อนค่าเงินที่เราไม่ต้องการทราบได้ และ Tick Chart เป็นกราฟย่อย เพื่อดูการซื้อขายแบบวินาที *

- Data Window คือ ข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ของราคาในแต่ละแท่ง

- Navigator คือ อินดิเคเตอร์ต่างๆ ที่ช่วยวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค (กดที่ icon >>> เลือกอินดิเคเตอร์โดยการ Double Click >>> กด OK หรือใช้เมาส์ลากมาโยนใส่กราฟก็ได้)

* สามารถลากอินดิเคเตอร์มารวมเป็นช่องเดียวกันได้เช่น Relative Strenght Index (RSI) รวมกับ Willam's Percent Range (%R) เป็นต้น *


* ช่อง Trade เป็นข้อมูลปัจจุบันที่ยังมีการเปิด position อยู่ และ รอการปิด position

* ช่อง Account History เป็นข้อมูลของ position ที่เราปิดเรียบร้อยแล้ว สามารถคลิ๊กขวาเพื่อดูรายงานย้อนหลัง และ ทำการเซฟข้อมูลได้


* ขั้นตอนการซื้อ-ขายใน MetaTrader 4 * ( ถ้าเทรดที่ Marketiva ข้ามไปเลยไม่ต้องอ่าน )

สามารถซื้อ-ขาย โดยการ Double Click ที่ค่าเงินที่ต้องการ แล้วทำการ Buy หรือ Sell

เมื่อเราเปิด position สามารถ Double Click ที่ Order ตรงช่อง Price (ปิดการขาย), S/L (ปรับ Stop-Loss), T/P (ปรับ Target) ได้

สามารถคลิ๊กขวาที่ Order เพื่อปรับแต่งค่า หรือ ใช้ระบบ Trailing Stop ช่วยในการขยับ S/L อัตโนมัติได้

* การตั้งการซื้อ-ขาย ล่วงหน้า ดังนี้ *

Type : Instant Execution (ซื้อในราคาปัจจุบัน) เปลี่ยนเป็น Pending Order (ตั้งราคาซื้อ-ขาย)

Buy Limit คือ การตั้งเปิด position ในจุดที่ "ต่ำกว่า" ราคาซื้อในปัจจุบัน
Buy Stop คือ การตั้งเปิด position ในจุดที่ "สูงกว่า" ราคาซื้อในปัจจุบัน

Sell Limit คือ การตั้งเปิด position ในจุดที่ "สูงกว่า" ราคาขายในปัจจุบัน
Sell Stop คือ การตั้งเปิด position ในจุดที่ "ต่ำกว่า" ราคาขายในปัจจุบัน

---------------------------------


- Bar Chart เลือกกราฟให้แสดงผลแบบแท่งบาร์

- Candlesticks เลือกกราฟให้แสดงผลแบบแท่งเทียน

- Line Chart เลือกให้กราฟแสดงผลแบบเส้น

- Zoon In เป็นการส่องขยายเข้าไปในกราฟ เพื่อโฟกัสตำแหน่งที่เราต้องการ

- Zoom Out เป็นการส่องขยายออกมาเพื่อดูกราฟในมุมกว้างๆ หรือ ดูแนวโน้มของตลาด

- Auto Scroll เป็นการกำหนดให้กราฟเลื่อนอัตโนมัติ

- Chart Shift เป็นการเลื่อนกราฟมาทางด้านซ้าย ไม่ให้ติดขอบขวาของจอภาพ

- Templates เมื่อเราได้ติดตั้ง indicators ต่างๆ ในกราฟเสร็จเรียบร้อย สามารถทำการ Save, Load, และ Remove ข้อมูลจากไอคอนนี้

แถบสีชมพ (นับจากซ้ายไปขวา)

- Vertical Line เป็นเ้ส้นแนวตั้ง เพื่อตรวจสอบ "เวลา" ของกราฟในแต่ละแท่ง

- Horizontal Line เป็นเส้นแนวนอน เพื่อตรวจสอบ "ราคา" ของกราฟในแต่ละแท่ง

- TrendLine เป็นเส้นตรงที่ลากไปจุด 2 จุด (L1, L2 - H1, H2)

- Equidistant Channel เป็นเส้นตรง 2 เส้น เพื่อกำหนดกรอบของราคา

- Fibonacci Retracement เป็นเส้นแนวรับและแนวต้านที่เป็นอัตราส่วนตามกฎของ Fibonacci (ลากจากจุดสูงสุดไปต่ำสุด หรือ ต่ำสุดไปสูงสุด)

- M1 , M5, M15, M30, H1, H4, D1, W1, MN เป็นการกำหนดให้กราฟแสดงผลใน "แต่ละแท่ง" เป็นแบบใด ตั้งแต่ 1 นาที จนถึง 1 เดือน



แถบสีน้ำเงิน (นับจากซ้ายไปขวา)

- MetaEditor เป็นการเขียนโปรแกรม MQ4 เพื่อช่วยในการวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค

- Expert Advisors เป็นการเปิดให้เครื่องทำการซื้อขายอัตโนมัติ เมื่อมีการเข้าเงื่อนไขตามโปรแกรมที่เขียนขึ้นจาก MetaEditor


ขั้นตอนการเพิ่ม Indicator ให้กับโปรแกรม MetaTrader 4

1. นำไฟล์ *.mq4 หรือ *.ex4 ไปไว้ใน C:\Program Files\Meta trader - north finance\experts\indicators ถ้ามี ไฟล์เทมเพลต *.tpl นำไปไว้ใน C:\Program Files\Meta trader - north finance\templates

2. ปิดโปรแกรม Meta Trader 4 แล้วเปิดใหม่

3. สามารถเลือกใช้งานได้ที่ Custom Indicator หรือถ้ามีเทมเพลต คลิกขวาที่กราฟเลือก Template ที่ใส่เข้ามาได้เลย


Credit : Jupiter














Money Management

Money management


ทำไม Money management ถึงสำคัญ เพราะเราต้องการที่จะทำกำไร เราต้องเรียนรู้การบริหารจัดการเงิน แต่คนส่วนมากได้มองข้ามมันไป

Trader หลายคน เทรดโดยที่ไม่มีหลักการ และดูแค่ว่าสามารถเสียได้เท่าไรในการเทรด 1 ครั้ง แล้วก็เทรดเลย อย่างนี้ค้าเรียกว่าการพนันไม่ใช่ การลงทุน

ถ้าคุณเทรดโดย ไม่ใช้ Money management นั้น มันก็เหมือนกับว่าคุณกำลังเล่นพนันอยู่ คุณไม่ได้มองการลงทุนระยะยาว คุณกำลัง รอ jackpot การบริหารเงินไม่เพียงช่วยเราป้องกันเงินทุน ยังสามารถทำมีกำไรในระยะยาวอีก แต่ถ้าคุณยังคิดว่าการเล่นแบบรอ jackpot เป็นสิ่งที่ถูกต้อง

Example
สมมุติว่าคุณ มีเงินอยู่ $10000 และคุณเสียไป $5000 คุณเสียไปทั้งหมดกี่เปอร์เซนต์ คำตอบคือ 50 เปอร์เซนต์ แล้วคุณต้องทำกี่เปอร์เซนต์เงิน $5000 ของคุณ ถึงจะกลับไปเท่าเดิมคือ $10000 คุณต้องทำถึง 100 เปอร์เซนต์ ไม่ใช่ 50 เปอร์เซนต์ เค้าเรียกว่า Drawdown จะเห็นว่ามันน่าหงุดหงิดมาก เพราะมันง่ายมากในการเสียไป แต่ได้กลับคืนมาเท่าเดิมนั้น ยากกว่า ซึ่งผู้อ่านคงไม่คิดที่จะเสีย เทรดเดียว 50 เปอร์เซนต์ ผมหวังว่าเป็นเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณเทรดเสีย 3, 4 หรือ 10 เทรดติดกันล่ะ มันดูเหมือนจะเกิดได้ยากถ้าคุณคิดว่าคุณมี trading system ที่มีเปอร์เซนต์ชนะ 70 เปอร์เซนต์ ดังนั้นคุณไม่มีทางเสีย ติดต่อกันได้ถึง 10 ครั้ง ถ้าคุณคิดว่าคุณมี Trading system ที่ดี ในการเทรด Trading system ที่ทำ profitable ได้ 70 เปอร์เซนต์ ดูเหมือนเป็น system ที่ดีมาก แต่มันไม่ได้หมายความว่า ใน100 เทรดคุณจะชนะ 70เทรด
คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า 70 ใน 100 เทรดจะชนะ คุณไม่มีทางรู้ได้ คุณ อาจจะเสีย 30 เทรดแรก แล้วไปชนะ 70 เทรดที่เหลือ ซึงยังให้ผลที่ 70 เปอร์เซนต์ แต่คุณก็คงเสียหายหนัก


จากตัวอย่างจะทำให้รู้ว่า Money management นั้นสำคัญ ไม่ว่าคุณจะมี Trading System ดีสักเท่าไร แต่ก็ต้องมีที่คุณเสีย เหมือนผู้เล่น Poker มืออาชีพ ถึงเค้าจะเล่นเสียครั้งใหญ่ แต่สุดท้ายเค้าก็จะจบด้วยกำไร

Credit www.babypips.com
แปลโดย Golink


การบริหารเงิน จาก 5$ ให้ได้ 20480$ ภายใน 1 ปี ( ราวๆ6แสนบาท)




ตามรูปเลยนะครับ ผมเลือกแผนการลงทุนแบบ 20% ของเงินที่มีอยู่(ช่องสีเขียว)
สมมุติผมมีเงิน 5$ ก็คือผมต้องลงทุน 1$ ต่อไปดูเป้าหมายครับ ต้องการทำกำไร 100% ของเงิน 5$ ทีมีอยู่ ก็คือ ผมต้องทำให้ได้ 500 pip ต่อเดือน อาจจะดูมากนะครับ แต่คิดเป็นวันก็แค่วันละ 25 pips ไม่ได้ยากอะไรเลย บางวันอาจจะได้เกิน 100 Pips ด้วยซ้ำ บางวันก็อาจจะไม่ได้เทรดเลยถ้าดูแล้วไม่น่าเล่น

โดยทุกครั้งที่เทรด ในเดือนแรกจะใช้เงินลงทุน 1$ ทุกครั้ง เมื่อครบเดือน ได้กำไร +500Pips คิดเป็น 100%
เดือนที่2 ก็เพิ่มเงินลงทุนเท่าตัว เทรดครั้งละ 2$ ทั้งเดือน
ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ

ถ้าทุกเดือนได้กำไร +500pips (100%) ตามเป้า ครบ 1 ปี ก็จะมีเงินถึง 20480$ คิดเป็นเงินไทยราว 6 แสนกว่าบาท เฉลี่ยเดือนละ 5หมื่นบาท ไม่ต้องลงทุนเลยซักบาท ใช้เงินโบนัส 5$ ที่เขาให้มานี่แหละ ขอเพียงมีความอดทนและตั้งใจจริง รอเทรดในจังหวะสวยๆ วันละ +25 Pips ใครๆก็ทำได้

Credit คุณ mycool จากเว็บรับซับ

2/24/2008

โปรแกรมเทรด Streamster

มือใหม่อ่านเรื่องนี้อาจจะมึนๆหน่อยนะครับ แต่ขอให้อ่านจนจบ ทำความเข้าใจ หลังจากนี้ไปจะง่ายแล้ว

ส่วนต่างๆของโปรแกรม

หลังจาก Login เข้ามาก็จะพบหน้าตาแบบนี้


ส่วนที่1 Forex rate เป็นส่วนที่แสดงราคาของคู่เงินต่างๆที่มีให้เราเทรดกัน

ตัวอย่าง EUR/USD หมายถึงเงินยูโรเทียบกับเงินดอล ราคา 1.2814 หมายความว่า 1 EUR = 1.2814 USD

Last- ราคาในตลาดตอนนี้
Bid - ราคาขายของค่าเงินนั้น ๆ ถ้าเราสนใจจะขายเราก็จะขายได้ในราคานั้น
Offer - ราคาซื้อ ของค่าเงินนั้นๆ ถ้าเราสนใจจะซื้อ เราก็จะซื้อได้ในราคานั้น
Change – ผลต่างจากราคาตอนเปิดตลาด ( ตลาดเปิดตี 5 )
High - ราคาสูงสุดของวันนี้
Low - ราคาต่ำสุดของวันนี้
Open - ราคาเปิดตลาดของวันนี้

สีเขียว หมายถึง เพิ่มขึ้น (จากวินาทีที่แล้ว)
สีแดง หมายถึง ลดลง
สีดำ หมายถึง เท่าเดิม

การเพิ่ม-ลบคู่เงิน ทำได้โดยการกดที่ปุ่ม Subscriptions ส่วนข้างบนจะแสดงรายการค่าเงินที่เรา add ไว้แล้ว ถ้าจะเอาตัวไหนออก ก็กดที่ค่าเงินนั้น แล้วกดที่ Remove ส่วนด้านล่าง แสดงค่าเงิน ที่เราสามารถเพิ่มเข้ามาได้ ให้กดที่ search แล้วระบบจะแสดงค่าเงินทั้งหมดออกมา จะเพิ่มตัวไหนก็กดที่ค่าเงินนั้นๆ แล้วกด Subscribe



ส่วนที่ 2 Chart เป็นส่วนที่แสดงกราฟของคู่เงินต่างๆ ในส่วนนี้จะใช้ในการวิเคราะห์การซื้อ-ขาย จะขอกล่าวถึงทีหลังในหัวข้อ Technical Analysis ( การวิเคราะห์ทางเทคนิค )

ส่วนที่ 3 Fortfolio เป็นส่วนที่แสดงจำนวนที่มีอยู่ของเรา ซึ่งจะมีอยู่ 2 Desk คือ
Virtual Forex เงินปลอมจำนวน $10000 เอาไว้หัดเทรดก่อนจะลงเงินจริง
Live Forex เงินจริงโบนัสจากการสมัคร $5 ( หากมี $2.5 ต้องทำการโอนมาจาก Live Funds โดยไปที่ Account Center --> Transfer Funds )

* เงินจริง $5 หากเล่นเสียจนหมด ห้ามสมัครใหม่เพื่อเอาโบนัสซ้ำเด็ดขาด คุณจะถูกแบนทันที ดังนั้นควรหัดเงินปลอมให้เก่งก่อนจะลงเงินจริง หรือจะ Deposit เงินตัวเองเข้ามาก็ได้

ส่วนที่ 4 Position แสดงรายการ Order ซื้อ-ขาย ของเรา


การเปิด Order ซื้อ - ขาย

การเทรดฟอเรก สามารถทำกำไรได้ 2แบบ คือ

Buy หรือ Long คืออการซื้อถูก แล้วขายแพง หรือเล่นแบบขาขึ้นนั่นเอง
Sell หรือ Short คือการขายแพงไปก่อน แล้วค่อยซื้อกลับมาเมื่อราคาต่ำลง



จากรูปตัวอย่าง หากเราจะซื้อEUR/USD จะได้ราคา 1.4828 และถ้าขายจะได้ราคา 1.4826 ซึ่งจะต่างกันอยู่ -2 pips( ส่วนต่างของราคา จะเรียกว่า Pips ไม่เรียกว่า point หรือ จุด เพราะมันเป็นทศนิยมหลายตำแหน่ง แต่คนไทยนิยมเรียกว่าจุดนั่นแหละเพราะความเคยชิน)

ส่วนต่างของราคาซื้อ-ขายตรงนี้เรียกว่า Spread ซึ่งเป็นค่าน้ำชาหรือค่าต๋งที่เราต้องเสียให้กับโบรกเกอร์

จะเห็นว่าคู่ที่มีค่า Spread ต่ำสุดก็ EUR/USD เป็นตัวที่เหมาะที่สุดแล้วกับมือใหม่เพราะเสียค่าต๋งน้อย ราคาไม่ค่อยผันผวนนัก วิเคราะห์ง่ายที่สุดว่ามันจะขึ้นหรือลง

หากจะซื้อ(เล่นแบบLong)คลิกที่ช่อง Offer และขาย(Short)คลิกที่ Bid



Instrument - สกุลเงิน ( เลือกไว้ให้แล้ว )
buy/sell - ชนิดของการทำรายการ ว่า ซื้อ หรือ ขาย ( เลือกไว้ให้แล้ว )
price - ราคา(ปัจจุบัน)
price type - มีให้เลือกว่าจะซื้อ-ขายหรือ หรือจะตั้งซื้อขายล่วงหน้า( จะกล่าวถึงทีหลัง ) ไม่ต้องเลือก
quantity - จำนวนเงินหน่วยเป็นเซนต์ ไม่ควรเทรดเกิน 20% ของเงินที่มี( $1 = 100 เซนต์ )
quantity type - ชนิดของจำนวน
exist stop loss – ตั้งค่าให้ปิด Order
อัตโนมัตที่ราคาไหน ใช้ในกรณีขาดทุนหรือกำไรลดลง
exit target – ตั้งค่าให้ปิด Order อัตโนมัติเมื่อได้กำไรระดับราคาที่เรากำหนด
desk - ชนิดของตังที่ลง (จริงหรือปลอม)


เช่น Long EUR/USD ที่ราคา 1.4820 จะเอากำไร +50 pips ก็ตั้ง exit target ไว้ 1.4870 และถ้าไม่ได้กำไร จะยอมขาดทุนที่ -50 pips ก็ใส่ exist stop loss ที่ 1.4770

การปิดการซื้อขาย Close Order

เมื่อเราทำกำไรถึงจุดๆนึงแล้ว คิดว่ามันไม่ไปต่อแล้ว จะปิดการซื้อ-ขายเพื่อเอากำไร หรือฝรั่งเรียกว่า Take Profit ให้ทำใน ส่วนที่ 4 Position คลิกในบรรทัดของออเดอร์ที่ต้องการปิด แล้วเลือก Close คลิก Yes ยืนยันอีกที ตรงช่อง Status จะเปลี่ยนจาก Open เป็น Closed กำไรหรือขาดทุนเท่าไรดูที่ช่อง Profits

เวลาเปิด-ปิดตลาด
เราสามารถเล่น Forex ได้ เช้าวันจันทร์ตี 4 ถึง คืนวันศุกร์ ตี 4 ( บวกหนึ่งชั่วโมงในหน้าหนาวยุโรปตามเวลา DST)
เล่นได้ 24 ช.ม. ต่อวัน อาทิตย์ละ 5 วัน มีตลาด forex ใหญ่ ของโลกประมาณ 4-5 แห่ง
คือ usd japan เป้นต้น แต่ละตลาดก็ เปิดและ ปิด คาบเกี่ยวกัน ตลาดยุโรปเปิด ตลาดเอเชียก็ปิด ทำให้ เราเล่น Forex ได้ 24 ช.ม.

ช่วงเวลาที่ควรเล่น คือช่วงเวลาเปิดตลาดยุโรป บ่าย2 ถึง 5โมงเย็น และอเมริกา ทุ่มครึ่ง ถึง เที่ยงคืน( บวกหนึ่งชั่วโมงในหน้าหนาวยุโรปตามเวลา DST)

Margin Requirement 1%

มาจิ้น คือ จำนวนเงินในบัญชีของเราที่โปรแกรมจะใช้มาคำนวณในการเทรด ดูใน ส่วนที่ 3 Fortfolio

Avilable Margin : คือจำนวนเงินที่เหลืออยู่ ที่สามารถเอาไปใช้เทรดได้
Used Margin : คือ จำนวนเงินที่ใช้ไป

ตรงนี้จะต้องระวังนิดนึงไม่ให้มาจิ้นหมด เมื่อเราขาดทุนติดลบมาจิ้นจะลดลงไปเรื่อยๆ ถ้าหมดมันจะสั่งปิด Order ของเราที่เปิดอยู่ เพื่อป้องกันการขาดทุนของโบรกเกอร์ ตรงนี้จะเกี่ยวข้องกับ Leverage แต่จะไม่ขออธิบายให้ปวดหัวเล่น

ตัวอย่างการคำนวณมาจิ้น

มีเงิน $5 = 500 cent ก็เท่ากับ มาจิ้น $5 ด้วย เมื่อซื้อ EUR/USD(อียู) มา 1 Order ( คนไทยเรียกว่า 1โพ ย่อมาจาก Position ) จำนวน 100 cent

Avilable Margin = 500 - 100 เหลือ 400 หรือ $4.00
เมื่ออียูที่ซื้อมา +10 จุดละ 1% 10จุดของ100 ก็ +10 cent
Avilable Margin = 400 + 10 = 410
แต่ถ้าอียูที่ซื้อมา -100 จุดละ 1% 100จุดของ100 ก็ -100 cent หรือ -1.00 $
Avilable Margin = 400 + 100 = 300

ถ้าอียูที่ซื้อมา -400 มาจิ้นก็จะหมด อียูก็จะโดนปิดอัตโนมัติ ตังก็จะหายไป 400 cent ได้ Used margin คืนกลับมา 100 cent เอาไว้เทรดต่อได้อีก

แต่ถ้าไม่มีระบบมาจิ้น เราก็จะหมดตัวที่ -500 ไม่เหลือตังมาเทรดต่อได้อีกเลย พอจะเห็นภาพไหมครับระบบมาจิ้นเขาทำมาไม่ให้เราหมดตัวนะนี่ ที่จริงแล้วมันจะปิดตั้งแต่มาจิ้นเหลือ 1% เทียบกับ Used Margin แต่ตัวอย่างผมคำนวณที่ 0% เพราะขี้เกียจจิ้มเครื่องคิดเลขนะ 1% กับ 0% มันไม่ต่างกันหรอก


Chat Groups

ในโปรแกรม Streamster นั้นมีห้องแชทสำหรับชาวไทยโดยเฉพาะอยู่ด้วย ในส่วนที่ 2 ให้คลิกที่ Discussion --> Group เลือก Thailand แล้วคลิกปุ่ม OK




สำหรับการวิเคราะห์กราฟจะขอกล่าวถึงทีหลัง โดยจะใช้โปรแกรม Meta Trader 4 ช่วย

การวิเคราะห์กราฟขั้นพื้นฐานสำหรับโปแกรม Streamster อ่านได้ที่ลิ้งข้างล่าง

http://www.rubsub.com/forums/index.php?topic=1844.0

วิธีการสมัคร Marketiva

Marketiva เป็นบริษัทที่ให้บริการในการเล่นเก็งกำไรค่าเงิน หรือ Forex trading services Marketiva Corporation เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศ Switzerland หมายเลข Registration number IBC CAP. 291 Reg. № 646819 อยู่ภายใต้หน่วยงาน Jurisdiction of Financial Services Commission (FSC) Marketiva เปิดตัวช่วงต้นปี 2005 ที่ผ่านมา ด้วยสโลแกนที่ว่า "Forex ใครๆ ก็เล่นได้" ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำแค่ 1$ ดอลลาร์ พร้อมด้วยเงินโบนัสเริ่มต้นเทรดฟรี $5 ดอลลาร์ ทำให้ตอนนี้ Marketiva กลายเป็นบริษัท Forex ที่ร้อนแรง มีคนให้ความสนใจ และไปเปิดบัญชีลงทุนกันอย่างมากมาย

วิธีการสมัคร Marketiva

1. คลิกที่ป้ายเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์



2. คลิกที่ Open an Account ดังรูป


3. กรอกข้อมูลภาษาอังกฤษตามความเป็นจริง ทุกช่องที่มี * สีแดง คลิก Continue



4. เลือก Template เป็น Standard หรือ Compact ก็ได้ ( แนะนำให้เลือก Compact ) เลือกคำถามช่วยจำ กด Next



5. คลิกทำเครื่องหมาย / เพื่อยอมรับข้อตกลง คลิก Finish


6. Download และติดตั้งโปรแกรม Streamster ลงบนคอมพิวเตอร์ ( ไม่ควรลอกอินหลาย Account บนคอมเครื่องเดียวกัน Account ที่ยังไม่ผ่านการยืนยันตัวตนจะโดนแบนทันที )



7. คุณจะได้รับเงินโบนัสฟรี $5 โดยแบ่งเป็น Live Forex $2.5 และ Live Funds $2.5 ให้ลอกอินไปที่ Account Center --> Transfer Funds เพื่อโอนเงินจาก Live Funds มาไว้ที่ Live Forex ทั้งหมด